รู้จักสัญญาณ “Friendflation” ติดสังคม จนการเงินติดลบ

ออกมาเดินห้างแป๊บเดียว เงินพันนึงก็ลอยหายไปแล้ว

นี่คือความจริงที่คนเมืองแทบทุกคนสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นการพบปะแบบ Girl dinner ให้รางวัลตัวเองนิดหน่อยด้วยชานมสักแก้ว ทุกเหตุผลล้วนฟังขึ้น และก็เพียงพอที่จะทำให้เงินในกระเป๋าหายไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความคิดที่ว่า “ของมันต้องมี” หรือ “ที่นี่ต้องไป”

พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ หรือ กลุ่ม Gen Z มักถูกเป็นที่ถกเถียงหรือนิยามเป็นศัพท์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่างเช่น “FOMO” ที่ย่อมาจาก Fear of missing out ที่พูดถึงการกลัวพลาดโอกาส หรือรู้สึกวิตกกังวลว่า “จะไม่ได้ชีวิตตามเทรนด์” ด้วยพฤติกรรมทางสังคมลักษณะนี้ส่งผลให้สุขภาพทางการเงินของคนรุ่นใหม่ก็เป็นที่น่ากังวลด้วยเช่นกัน

ผลสำรวจจากวิจัยกรุงศรีในปี 2568 พบว่าประมาณ 6 ใน 10 ของคน Gen Z มีหนี้ และครึ่งหนึ่งเป็นหนี้ประเภทหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้ผ่อนสินค้า อย่างไรก็ตามราว 64% ของคนกลุ่มนี้ที่มีหนี้ยังไม่ได้รู้สึกกังวล ด้วยภาระหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ แต่ด้วยพฤติกรรมลักษณะนี้เอง อาจเป็นบ่อเกิดของหนี้เสียสะสมในอนาคต

นอกจากคนไทยรุ่นใหม่แล้ว ในสหรัฐอเมริกาก็มีการพูดถึงประเด็นเช่นกัน ในรายการพอดแคสต์อย่าง Way Up With Angela Yee มีการพูดถึง “Friendflation” ที่เกิดจากการผสมคำว่า “Friend” ที่แปลว่า เพื่อน และ “Inflation” ที่แปลว่า เงินเฟ้อ ซึ่งหมายถึงปรากฏการณ์การใช้จ่ายเพื่อเข้าสังคมที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญจากภาวะเงินเฟ้อ

การสำรวจโดย Self Financial ในปี 2568 พบว่าชาวอเมริกัน 4 ใน 5 มีความรู้สึกกังวลด้านการเงิน เมื่อต้องสังสรรค์กับเพื่อน และอีก 43% บอกว่ารู้สึกลำบากใจ หากมีเพื่อนที่ร่ำรวยกว่า และมีการเปิดเผยปัญหานี้พบได้ชัดเจนในกลุ่มคน 20 - 30 ปี เมื่อเพื่อนแต่งงาน ฉลองวันเกิด และโอกาสสำคัญต่าง ๆ สะท้อนถึงภาระต้นทุนทางความสัมพันธ์ที่ดูจะหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ

5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับภาวะ Friendflation

1. ยอมไปเที่ยวกับเพื่อน แม้จะไม่ค่อยมีเงิน 

2. ลำบากใจเมื่อต้องปฏิเสธคำชวน

3. รู้สึกเครียดเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับการไปเที่ยว

4. มีหนี้บัตรเครดิต และเริ่มจ่ายไม่ทัน

5. รู้สึกแปลกแยก หากไม่ได้ใช้จ่ายตามเพื่อน

ศิลปะแห่งการประนีประนอม และเข้าใจตัวเอง คือคำตอบ

การเข้าสังคมมีมานานเท่ามนุษยชาติ แต่รูปแบบเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีเงื่อนไข และผู้คนหันมาจับจ่ายเพื่อ “ประสบการณ์” มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกินข้าวนอกบ้าน ท่องเที่ยว หรือแม้แต่ออกไปวิ่งกับเพื่อน ซึ่งทุกอย่างมาพร้อมทุนทางสังคม และถูกตีความเป็นเครื่องมือวัดคุณค่าความสัมพันธ์

คำตอบของเรื่องนี้คือ “ศิลปะแห่งการประนีประนอม” นักบำบัดทางการเงินอย่าง Bill Nelson ให้คำแนะนำไว้ว่า การพูดคุยร่วมกัน และไม่ตัดสินฐานะการเงินของผู้อื่นจากสิ่งที่เห็น จะช่วยลดทอนปัญหาทางการเงิน และรักษาความสัมพันธ์ไปพร้อม ๆ กันได้

และสุดท้ายคือ การรู้จักตนเอง ทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้ชีวิตตนเองให้สอดรับกับสังคม โดยไม่ปล่อยให้ชีวิตการเงินพัง

ที่มา : Financial Times

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney