
ผ่านมา 9 เดือนแต่คลื่นเลิกจ้างยังเกิดขึ้นทั่วโลก เป็นมนุษย์เงินเดือนยิ่งกังวลว่าถึงสิ้นเดือนนี้จะมีเงินเข้าบัญชี…แต่อนาคตไม่แน่” แล้วถ้าเราถูกเลิกจ้างต้องรู้อะไรบ้าง
ข่าวเลิกจ้างเกิดขึ้นทั่วโลก ทั้ง Amazon ประกาศว่าจะปลดคนกว่า 14,000 ตำแหน่ง ไปจนถึงหลายโรงงานในไทยที่ประกาศเลิกจ้างแบบฟ้าผ่า ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเราต้องรู้อะไรบ้าง?
ท่ามกลางเศรษฐกิจไม่แน่นอนสูง ทำให้ทั้งบริษัทใหญ่เล็กไม่ว่าจะในไทยหรือทั่วโลก ต้องปรับตัวกันถ้วนหน้า นี่อาจเป็นเหตุผลที่เราต่างเห็นการเลิกจ้างล็อตใหญ่เกิดขึ้นมากมาย เช่น United Parcel Service (UPS) ที่ประกาศลดพนักงานฝ่ายปฏิบัติการลง 34,000 ตำแหน่งในปีนี้ และ General Motors ที่เลิกจ้างพนักงานราว 1,700 คน เป็นต้น
เรียกว่า 9 เดือนแรกปี 2568 ยอดการเลิกจ้างในสหรัฐฯ พุ่งสูงกว่าช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก FINNOMENA) สาเหตุอาจมาจากหลายเรื่อง เช่น บางบริษัทลดจำนวนพนักงานเพราะนโยบายการโยกย้ายทรัพยากรไปลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สถานการณ์ในไทยก็ไม่ต่างกัน เพราะ SME และบริษัทไทยต้องเจอกับการแข่งขันสูง ทำรายได้ยากขึ้น นำสู่หนึ่งในทางออกอย่างการลดต้นทุน ซึ่งอาจต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วน ดังนั้นถ้าเกิดเรื่องนี้ขึ้นเราต้องรู้สิทธิ และได้ค่าชดเชยอย่างไร
เมื่อถูกเลิกจ้างตามกฎหมายแล้ว บริษัทต้องจ่าย “ค่าชดเชย” ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
1. กรณีถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด จะได้รับค่าชดเชย คือ
1.1. ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน (ได้ 1 เดือน)
1.2. ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 90 วัน (ได้ 3 เดือน)
1.3. ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 3 ปีแต่ไม่ครบ 6 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน (ได้ 6 เดือน)
1.4. ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 240 วัน (ได้ 8 เดือน)
1.5. ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 10 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 300 วัน (ได้ 10 เดือน)
1.6. ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน (ได้ราว 13.3 เดือน)
ทั้งนี้ หากลูกจ้างทำงานมายังไม่ถึง 120 วัน นายจ้างจะไม่จ่ายค่าชดเชยก็ได้
2. ในกรณีที่นายจ้างเลิกจ้างโดยไม่บอกล่วงหน้า (หลายคนเรียกว่าค่าตกใจ)
ถ้านายจ้างไล่เราออกทันทีโดยที่ไม่บอกล่วงหน้า ถือได้ว่านายจ้างทำผิดสัญญาจ้างแรงงาน ดังนั้น นอกจากเราจะได้ "ค่าชดเชย" (ตามข้อ 1) แล้ว นายจ้างยังต้องจ่าย "ค่าเสียหายจากการไม่บอกกล่าวล่วงหน้า" (ตามมาตรา 17/1) ด้วย ซึ่งจะคิดเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้ายตามระยะเวลาที่ควรต้องบอกล่วงหน้า โดยมีเพดานสูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
ข้อมูลทั้งหมดนี้สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 มาตรา 118 และมาตรา 17/1 และถ้าใครยังมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาสามารถสอบถามกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้
เลิกจ้างเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่การรู้สิทธิพื้นฐานและค่าชดเชยที่ตัวเองจะได้รับไว้ล่วงหน้าก็ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นประโยชน์ เพราะอย่างน้อยที่สุด เงินชดเชยเหล่านี้จะเป็นเหมือน ‘เบาะรองรับ’ ที่ช่วยให้เรามีทุนสำรองสำหรับใช้จ่าย มีเวลาในการตั้งหลัก และวางแผนชีวิตเพื่อก้าวต่อไปในช่วงที่ต้องหางานใหม่
ที่มา : CNBC, สภาพัฒน์, กรมแรงงาน, กรมประชาสัมพันธ์, FINNOMENA
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney