คปภ. เรียกบริษัทประกันชี้แจง เคสรถไฟฟ้า “ขับดี-ไม่เคลม” แต่ไม่ให้ส่วนลดเบี้ยปีต่อ 10-40%

“ประกันรถไฟฟ้าเบี้ยแพง แถมยังต้องระบุคนขับอีก”

นี่อาจเป็นความในใจของหลายคน เมื่อต้องซื้อหรือต่ออายุประกันรถไฟฟ้าคันที่ใช้อยู่ แต่รู้หรือเปล่าว่าเงื่อนไข “ระบุชื่อผู้ขับขี่” ที่เพิ่งเริ่มบังคับใช้เมื่อปลายปี 66 อาจทำให้เราได้ส่วนลดเบี้ยประกันฯ เพิ่มสูงสุด 40% เมื่อต้องต่ออายุประกันรถไฟฟ้าในปีถัดไป โดยเราจะได้ส่วนลดนี้ในกรณีที่มีพฤติกรรมขับขี่ดี เป็นฝ่ายถูก หรือไม่มีเคลมประกั

เงื่อนไขเหล่านี้ฝั่งคนซื้อประกันอย่างเราอาจไม่ค่อยรู้กัน แต่ที่น่าสงสัยกว่าคือบริษัทประกันภัยอาจยังไม่เริ่มใช้เงื่อนไขนี้ก็ได้

เพราะล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ที่เป็นคนดูแลภาพรวมธุรกิจประกัน ออกโรงเรียกบริษัทประกันภัยมาชี้แจงว่า ทำไมไม่ทำตามคำสั่งนายทะเบียนฯ ที่เริ่มบังคับใช้มาปีกว่าแล้ว

สรุปคร่าวๆ กันก่อน เมื่อปลายปี 2566 คปภ. ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 47/2566 มีใจความว่า กรมธรรม์ประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานกันตามบ้าน (ใช้งานส่วนบุคคล) ต้องเป็นแบบ “ระบุชื่อผู้ขับขี่” และกำหนดว่าบริษัทประกันต้องให้ส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับ “ผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี” ในกรณีการต่ออายุประกัน

แต่ผ่านมาแล้ว 1 ปีกว่า คปภ. ลองไปตรวจสอบฐานข้อมูลกลางประกันภัย (IBS) พบว่า “มีบริษัทประกันภัยที่มีการใช้ระดับพฤติกรรมการขับขี่ในการรับประกันภัยจำนวน 13 บริษัท แต่ส่วนใหญ่ยังมีการต่ออายุโดยใช้ระดับพฤติกรรมการขับขี่ที่ระดับ 1 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่มีส่วนลดเบี้ยประกันภัย แม้ว่าผู้เอาประกันภัยจะไม่มีการเคลมหรือเป็นฝ่ายถูกในการเกิดเหตุ”

ดังนั้นจาก 13 บริษัทที่ว่า คปภ. เริ่มเรียกคณะกรรมการหรือผู้แทนบริษัทรายหนึ่ง เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เกิดจากอะไร อุปสรรคอยู่ตรงไหน จะทำอย่างไรต่อไป มีแนวทางไหนจะแก้ปัญหานี้

ที่สำคัญคือ จะเน้นให้บริษัทประกันภัยหาแนวทางการสื่อสารกับผู้เอาประกันภัย ให้รู้ถึงสิทธิประโยชน์ส่วนลดเบี้ยประกันภัยที่ควรได้รับ ซึ่งจะมาพร้อมกับเงื่อนไขเบื้องต้นคือ 1) ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2) ต้องยินยอมให้บริษัทตรวจสอบข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่แต่ละราย หรือสามารถแสดงข้อมูลระดับพฤติกรรมการขับขี่ของตนเองให้แก่บริษัทก็ได้

จากที่อ่านมาทั้งหมดนี้ สำหรับเจ้าของรถไฟฟ้าที่ขับดีไม่มีเคลมในปีที่ผ่านมา อาจจะเริ่มจาก 
1. ถามบริษัทประกันภัยที่เราซื้อประกันรถยนต์อยู่ว่า “ส่วนลดเบี้ยฯ เราควรได้เท่าไร?” เพื่อรักษาสิทธิของเราไว้ 

2. ถ้าบริษัทฯ อธิบายเหตุผลที่ไม่เหมาะสม เราอาจยกหูไปขอปรึกษาที่สายด่วนของคปภ. 1186 หรือจะลงทะเบียนเข้าสู่ระบบของ คปภ. เพื่อร้องเรียนความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นก็ได้

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney