พูดคุยอีกครั้งกับ “ซีเค เจิง” ซีอีโอของ Fastwork ที่มาแลกเปลี่ยนแนวคิดกับน้อง ๆ ในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยครั้งนี้พุ่งประเด็นไปที่ “กฎเหล็กการเงิน” พร้อมกับสาดแนวคิดการทำธุรกิจ ตลอดจนเรื่องการเดินทางที่ผ่านมากว่าจะประสบความสำเร็จ
บนเวที Thairath Money Campus Tour 2025 ได้มีโอกาสพูดคุยอีกครั้งกับ “ซีเค เจิง” ซีอีโอของ Fastwork ที่มาแลกเปลี่ยนแนวคิดกับน้อง ๆ ในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยครั้งนี้พุ่งประเด็นไปที่ “กฎเหล็กการเงิน” พร้อมกับสาดแนวคิดการทำธุรกิจ ตลอดจนเรื่องการเดินทางที่ผ่านมากว่าจะประสบความสำเร็จ ส่งสารไปถึงคนรุ่นใหม่ผ่านความจริง พร้อมตอบคำถามแบบที่ไม่ได้มอบสูตรสำเร็จสวยหรู
ก่อนจะไปถึงเรื่องการเงินและการลงทุน ซีเค ได้เริ่มหมัดเด็ด กล่าวถึง Mindset การทำงานและการใช้ชีวิตว่า
“ผมว่าเราไม่ต้องไปแคร์คนอื่นมากเกินไปครับ เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะเป็นยังไง คนอื่นก็ตัดสินเราอยู่ดี… พอคุณใส่แบรนด์เนมเขาก็บอกว่า ‘ขี้อวด’ พอไม่ใส่ก็หาว่า ‘ไม่มีเทสต์ พอคุณสำเร็จก็บอกว่า ‘โชคดี’ แต่ถ้าไม่สำเร็จก็หาว่า ‘กระจอก’ ดังนั้น เสียงพวกนี้มันจิ๊บจ๊อยยิ่งกว่าเสียงแมลงวันในห้องเสียอีก”
ซีเค ยังเสนอต่ออีกว่า ถ้ากลับมามองในมุมของโลกธุรกิจ พลังงานและเวลาที่เสียไปกับการกังวลเสียงวิจารณ์ ควรถูกนำมาใช้ตั้งคำถามที่สำคัญกว่า เช่น กลยุทธ์ที่เราทำอยู่ถูกต้องหรือไม่? หรือเราจะพัฒนาสินค้าเพื่อลูกค้าได้อย่างไร? นี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างเกราะทางความคิดที่แข็งแกร่ง
โดยแนวคิดที่ ซีเค ฝากถึงผู้ประกอบการและคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นผู้ประกอบการว่า ผู้ประกอบการต้องมี 3 อย่าง นั่นคือ
ซีเค ให้มุมมองต่อเรื่องของการลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ว่า สำหรับน้อง ๆ คนรุ่นใหม่ที่มีเงินในบัญชีแค่ 10,000 หรือ 100,000 บาท “สิ่งที่คุณต้องมุ่งเน้น ไม่ใช่การลงทุน แต่คือการหาเงินให้มากขึ้น ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณจะลงทุนไม่ได้ คุณจะเอาเงิน 300 บาท หรือ 7,000 บาทไปลงทุนหวังรวย มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริง”
เพราะฉะนั้น กฎข้อแรกของการเงิน ไม่ใช่การหาเงินตอนเรานอน แต่คือกฎที่ว่าคุณต้องหาเงินให้เพียงพอตอนที่คุณตื่น ถ้าเงินในกระเป๋ายังไม่เยอะพอ จงหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มก่อน นั่นคือสเต็ปแรก
คำถามต่อมาคือ แล้วจะหลีกหนีจากของล่อตาล่อใจไม่ให้ใช้เงินออกไปได้อย่างไร? ส่วนนี้ ซีเค ตอบว่า “คุณจำคำนี้ไว้ให้ขึ้นใจเลย ถ้าคุณยังไม่มีเงิน 10 เท่าของสิ่งของนั้น แสดงว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะซื้อมัน” พร้อมกับยกตัวอย่าง
“นี่คือกฎที่ผมใช้กับตัวเอง ถ้าไม่มีเงินมากกว่าราคาสินค้า 10 เท่า ผมไม่ซื้อ” ซีเคกล่าว
ปัจจุบันนี้ ส่วนตัวซีเคเองมีการลงทุนอยู่ในสินทรัพย์หลายอย่าง โดยส่วนใหญ่ลงทุนไปกับหุ้นที่ชอบเป็นการส่วนตัว (ตอนนั้นเองซีเคก็บอกว่า เขาเริ่มต้นลงทุนแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่)
ซีเคเล่าว่า เริ่มแรกเขาลงทุนในหุ้น Amazon เพราะเห็นร้านหนังสือ Barnes and Noble ร้านที่ไปนั่งประจำเจ๊งไปต่อหน้าต่อตาเพราะการเข้ามาของแพลตฟอร์ม Amazon เลือกลงทุนใน Apple เพราะอยากเป็นคน Cool หรือการเลือกลงทุนใน BTC ตั้งแต่ปี 2016 เพราะมองว่า “เด็กรุ่นใหม่ชอบอะไร สิ่งนั้นก็คืออนาคต ถ้าอยากรู้ว่าหุ้นตัวไหนจะดี ให้ไปคุยกับเด็กเยอะ ๆ”
ที่ผ่านมา อย่างที่ทราบกันดีว่า ซีเคมักจะให้ความเห็นต่อการลงทุนใน S&P 500 มาต่อเนื่อง บนเวทีนี้ Thairath Money ก็มีโอกาสให้ ซีเค ได้เล่าเพิ่มเติมถึงแนวคิดนี้
ซีเค กล่าวว่า “ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า S&P 500 คืออะไร ในโลกนี้มีบริษัทที่มีรายได้เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่ประมาณ 20,000 บริษัท S&P 500 คือการรวมตัวของ 500 บริษัทที่ดีที่สุดในโลก ถ้า S&P 500 ล่มสลาย โลกทั้งใบก็คงไม่รอดเหมือนกัน”
ดังนั้น ซีเคเลยมองว่า การลงทุนใน S&P 500 ในระยะยาว (แบบ 10-20 ปี) ไม่มีทางแพ้ เพราะมันเติบโตตามเศรษฐกิจโลก และเมื่อเกิดเงินเฟ้อ เงินก็จะไหลเข้าสู่บริษัทเหล่านี้อยู่ดี แม้แต่ Warren Buffett นักลงทุนที่เก่งที่สุดในโลกก็ยังแนะนำให้ลงทุนใน S&P 500
นอกจากนี้ยังได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงตลาดสหรัฐอเมริกาและจีน ด้วยว่า เหตุผลที่เขาเลือกซื้อหุ้นหรือให้ความสนใจกับตลาดอเมริกา เป็นเพราะ “สหรัฐอเมริกาคือผู้นำด้านนวัตกรรมของโลก”
ทุกวันนี้ เทคโนโลยีที่เราใช้ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Facebook, Instagram, Microsoft, Netflix, Nvidia ล้วนมาจากอเมริกา และมองถึงเรื่องนวัตกรรม ว่า “จีนเก่งเรื่องการลอกเลียนแบบ แต่ไม่ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ อเมริกาคือผู้สร้างและยังคงเป็นผู้นำไปอีก 10-20 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน”
ซีเคกล่าวว่า “มันย้อนแย้งมากที่เราตั้งใจเรียน เพื่อที่จะได้ทำงานดี ๆ เพื่อที่จะได้หาเงิน แต่เรากลับไม่เคยพยายามทำความเข้าใจเรื่องเงินเลย”
ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร เป็นหมอ ทนาย หรือดีไซเนอร์ สุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องใช้เงิน คุณจะรวยได้อย่างไรถ้าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังตามหาอยู่เลย เราต้องกล้าตั้งคำถามที่สำคัญกว่าความรู้ในห้องเรียน เช่น เงินเฟ้อคืออะไร? ดอกเบี้ยคืออะไร? บัตรเครดิตกับเดบิตต่างกันอย่างไร? งบการเงินของบริษัทดูยังไง?
ซีเค เชื่อว่า ความรู้เหล่านี้สำคัญกว่าสูตรคณิตศาสตร์ที่เราเรียนมาแต่ไม่ได้ใช้ในชีวิตจริงด้วยซ้ำ
สุดท้าย ซีเค ฝากข้อคิดทิ้งท้ายให้น้อง ๆ ว่า “ทรัพย์สินที่ดีที่สุดของคุณคือ ‘ความเก่ง’ ความรู้ไม่มีต้นทุน คุณต้องถามตัวเองเสมอว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองเป็นคนที่เก่งที่สุดในสายงานนั้นให้ได้ ถ้าคุณเก่งจริง คุณจะไม่มีวันเจอปัญหาเรื่องการหาเงินหรือความมั่นคง”
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเป็นคน “เก่ง” หรือคนที่ “โดดเด่น” ไม่ได้มาจากการเข้าคอร์สเรียน เพราะทุกคนที่เรียนก็ได้ความรู้เหมือน ๆ กันหมด แต่ความโดดเด่นมาจากการที่คุณรู้ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ และสิ่งนั้นจะมาจากประสบการณ์ของคุณเอง คุณต้องกล้าลองทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ นั่นแหละคือหนทางสู่การเป็นคนเก่งที่แท้จริง
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney