ความสัมพันธ์จีน-อ่าวอาหรับ พื้นหลังที่น่าวิตก เปิดแผน AI และชิป เครื่องมือใหม่ของการทูตสหรัฐฯ เมื่อการเดินทางเยือนตะวันออกกลางของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดประกายแรงสั่นสะเทือนทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งใหม่ โดยเฉพาะในสมรภูมิของ “เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” (AI) ที่กำลังกลายเป็นหัวใจของการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน
การเดินทางเยือนตะวันออกกลางของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดประกายแรงสั่นสะเทือนทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งใหม่ โดยเฉพาะในสมรภูมิของ “เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” (AI) ที่กำลังกลายเป็นหัวใจของการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน
ตลอดทริป 4 วัน 3 ประเทศ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ทรัมป์สามารถเจรจาข้อตกลงการลงทุนขนาดมหาศาล ครอบคลุมทั้งพลังงาน เทคโนโลยีขั้นสูง และระบบป้องกันประเทศ ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะในหมวด AI และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการช่วงชิงอิทธิพลในภูมิภาคจากจีน
ดีลเหล่านี้สะท้อนถึงทิศทางใหม่ของนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯ ที่หันมาใช้อำนาจทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีแทนการแทรกแซงทางทหาร พร้อมกับการวางหมากสำคัญเพื่อ “คานอำนาจจีน” ซึ่งได้ฝังรากลึกในตะวันออกกลางช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI), การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พลังงาน รวมถึงการวางโครงข่ายการสื่อสารสำคัญ โดยบริษัทอย่าง Huawei ซึ่งนับเป็น Red Flag สำคัญสำหรับยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ที่มีบทบาทอย่างมากในซาอุฯ และยูเออี
“หากสหรัฐฯ ไม่สนับสนุนให้พันธมิตรใช้เทคโนโลยีอเมริกัน ประเทศเหล่านั้นอาจหันไปพึ่งจีน” เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้าน AI แห่งทำเนียบขาวผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาดีลกับผู้นำในตะวันออกกลาง เปิดวิสัยทัศน์ช่วงต้นทริป
AI และเซมิคอนดักเตอร์ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของสหรัฐฯ ในการขยายอิทธิพลและป้องกันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยการวาง “เงื่อนไขด้านความมั่นคง” เช่น การห้ามบริษัทจีนเข้าถึงคลาวด์หรือฮาร์ดแวร์ AI ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค และการส่งเสริมให้พันธมิตรใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ เป็นหลัก ดังนั้นการยกระดับประเทศในภูมิภาคนี้ให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI ระดับภูมิภาคโดยใช้เทคโนโลยีสหรัฐ คือ หมากที่ทั้ง “กันจีน” และ “ขยายอิทธิพล” ไปพร้อมกัน
มีความเป็นไปได้สูงว่า หากข้อตกลงที่ประกาศไว้เดินหน้าได้จริง และประเทศในอ่าวอาหรับยอมรับกรอบความร่วมมือที่วอชิงตันวางไว้ ความเชื่อมโยงระหว่างจีนกับพันธมิตรสหรัฐฯ ในอ่าวจะถูกจำกัดลงอย่างมีนัยสำคัญ สหรัฐฯ จะสามารถควบคุมทิศทางการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูงในภูมิภาค ตลอดจนมีแต้มต่อในการเจรจาทางเศรษฐกิจและความมั่นคงกับตะวันออกกลางในระยะยาว
อย่างไรก็ตามแม้จะมีข้อตกลงเชิงยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯ แต่หลายประเทศในอ่าวยังคงมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับจีน ซึ่งสร้างความกังวลให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางรายที่กังวลเกี่ยวกับการส่งออกชิป AI หลายหมื่นชิ้นให้ซาอุฯ และยูเออี โดยเฉพาะเมื่อยังไม่มีมาตรการป้องกันที่ชัดเจนพอ เช่น การส่งต่อชิปผ่านประเทศที่สาม หรือการเข้าถึงระบบจากระยะไกลของบริษัทจีน
ซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดให้จีน และมีความร่วมมือในด้าน 5G และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยเฉพาะกับ Huawei ซึ่งมีบทบาทในการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในซาอุฯ ในโครงการ Saudi Vision 2030
ด้าน ยูเออี มีความร่วมมือด้าน AI กับบริษัท G42 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในวงการ AI ของยูเออี และเคยมีสายสัมพันธ์กับจีน แม้ล่าสุดจะหันมาร่วมมือกับ Microsoft และ OpenAI แต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ หากไม่มีการควบคุมที่เข้มงวด และในส่วนของกาตาร์ ที่มีจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ของก๊าซธรรมชาติ และยังมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดด้านเทคโนโลยีและการลงทุน
ทั้งนี้ความกังวลที่เกิดขึ้นได้มีการเปิดเผยระบุถึง “ข้อกำหนดความปลอดภัย” ในระดับหนึ่ง เช่น ห้ามส่งต่อชิปไปยังจีน และห้ามบริษัทจีนเข้าถึงระบบจากระยะไกล โดยจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมสหรัฐฯ-พันธมิตรในอ่าวเพื่อร่างรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติม
แผนการเดินเกม AI ของทรัมป์ในตะวันออกกลางอาจกลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการรักษาอิทธิพลของสหรัฐฯ ท่ามกลางการไล่ล่าของจีนในเวทีเทคโนโลยีโลก หากสามารถดำเนินการได้สำเร็จ ความเชื่อมโยงระหว่างจีนกับพันธมิตรในอ่าวอาหรับอาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติของการทูตอ่าวอาหรับที่มักเลือกข้างตามผลประโยชน์ สหรัฐฯ ยังต้องบริหารเกมนี้ด้วยความรอบคอบ เพราะหากเงื่อนไขเปลี่ยน ความสัมพันธ์ก็สามารถเปลี่ยนได้เช่นกัน
คำถามใหญ่จึงถูกถามต่อและยังคงอยู่ สหรัฐฯ ว่าจะสามารถควบคุมการถ่ายโอนเทคโนโลยีและป้องกันการรั่วไหลกลับไปยังจีนได้จริงหรือไม่ การปูพรมอิทธิพลครั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารความเสี่ยงของสหรัฐฯ รวมถึงความยืดหยุ่นของการทูตอ่าวอาหรับที่เปิดกว้างในการร่วมมือกับทั้งสหรัฐฯ และจีน โดยมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยหลักในการเลือกข้างในแต่ละช่วงเวลา
ในระยะยาวโลกต้องจับตาว่ากลยุทธ์กระจายเทคโนโลยีพร้อมตั้งเงื่อนไขของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำของตนไว้ได้ หรือจะกลับกลายเป็นการเปิดประตูให้คู่แข่งอย่างจีนขยับเข้ามาใกล้ขึ้นในสนามแข่งขัน AI ระดับโลกหลังจากนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงข้อมูล Bloomberg1 , Bloomberg2 , Atlanticcouncil , WIRED
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -