ด้วยความเชื่อมั่นว่า “การเติบโตของธุรกิจต้องเดินไปพร้อมกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล” กลุ่มเซ็นทรัล จึงมุ่งขับเคลื่อน “เซ็นทรัล ทำ–ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ” โครงการด้านความยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ดำเนินมากว่า 8 ปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพและพัฒนาสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ตาม 6 แนวทาง Community-พัฒนาศักยภาพและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน, Inclusion-การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม, Talent-พัฒนาศักยภาพที่เป็นเลิศของบุคลากร, Circularity-ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน, Climate-การฟื้นฟูสภาพอากาศ และ Nature-การอนุรักษ์ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่าโครงการ “เซ็นทรัล ทำ”-ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ คือโครงการด้านความยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม ตลอดเวลากว่า 8 ปีของการดำเนินโครงการ เราได้ร่วมมือกับชุมชนเพื่อพัฒนาและต่อยอดจนเกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทุกก้าวของ “เซ็นทรัล ทำ” คือความภาคภูมิใจในการลงมือทำและร่วมมือกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดี หัวใจสำคัญของโครงการนี้คือได้ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า และสะท้อนถึงแนวคิดที่ว่า การเติบโตของธุรกิจต้องเดินไปพร้อมกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น ชุมชน คู่ค้า ลูกค้า หรือพนักงาน ซึ่งนำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลกล่าวต่อว่า ความคืบหน้าในงาน ปี 2568 ของ 4 จังหวัดต้นแบบ ได้แก่ จังหวัดน่าน, พระนครศรีอยุธยา, เชียงใหม่และชัยภูมิ มีอาทิ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลบัวใหญ่ อ.นาน้อย จ.น่าน เซ็นทรัล ทำและพันธมิตร ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ปลูกไม้ยืนต้น ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และพัฒนาผลผลิตเพื่อเตรียมเข้าสู่การจดทะเบียนเป็นสินค้า GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) พร้อมแปรรูปจำหน่ายในร้านค้าชุมชน รวมถึงส่งต่อไปยังธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล เช่น ท็อปส์ ในปี 2567 สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน 10 ล้านบาท และสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่สมาชิกวิสาหกิจ 179 ครัวเรือน หรือความสำเร็จของเกษตรกรบ้านหมู่ใหญ่ใน หรือกลุ่ม “วิสาหกิจชุมชนเมลอนหมู่ใหญ่ร่วมใจพัฒนา” ต.คู้สลอด อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ผลิตเมลอนภายใต้ชื่อ “Smile Melon” สามารถ เปิดช่องทางการขายในตลาดไปยังประเทศสิงคโปร์ จำนวนกว่า 6.2 ตัน สร้างรายได้กว่า 530,400 บาท และยังคงมียอดการสั่งต่อเนื่องมาถึงปี 2568 รวมยอดที่ส่งออกทั้งสิ้น 25.2 ตัน รายได้รวม 2 ล้านบาท ทั้งมีโครงการสิ่งแวดล้อมในอยุธยามุ่งยกระดับการจัดการของเสียทางการเกษตร โดยฟาร์มเมลอนหมู่ใหญ่ร่วมใจพัฒนานำเมลอนที่เน่าเสียมาเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงไก่ และมีแผนขยายโครงการไปยังชุมชนเกษตรและโรงเรียน ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เซ็นทรัล ทำ ร่วมกับมูลนิธิสายใยแผ่นดิน (Earth Net Foundation) พัฒนา “พื้นที่วิถียั่งยืนแม่ทา” ตั้งแต่ปี 2560 มุ่งสร้างเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ พร้อมผลักดันคนรุ่นใหม่สู่บทบาทเกษตรกรรุ่นใหม่ ได้มีการพัฒนาคุณภาพผลผลิต สนับสนุนการรับซื้อ สร้างแบรนด์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ และขยายช่องทางจัดจำหน่าย เพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน เป็นต้น. อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม