สืบภาค 1 ทลาย “แก๊งคอกม้า” เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์นายทุนจีน รวบตัว 8 ผู้ต้องหาชาวไทยมีทั้งคนควบคุมสั่งการ พาบัญชีม้าไปกดเงิน และคนเปิดบัญชีม้ายึดเงินสดได้กว่า 8 แสนบาท สารภาพย้ายฐานสแกนหน้ามาจากกัมพูชาหลังมีข้อพิพาทชายแดน รวบรวมกลุ่มบัญชีม้าออกตระเวนกดเงิน นำไปฟอกเปลี่ยนเป็นเงินคริปโตก่อนส่งไปให้กลุ่มนายทุนชาวจีน เฉลี่ยวันละ 1-2 ล้านบาท ได้ค่าตอบแทนร้อยละ 4 รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาทปฏิบัติการบุกทลายเครือข่ายบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่เปิดเผยที่ บช.ภ.1 เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 พ.ย. พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบช.สง.ก.ตร.ปฏิบัติราชการ ภ.1 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งคอกม้าและม้าถอนเงิน เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนายทุนชาวจีนผู้ต้องหา 8 คนประกอบด้วย น.ส.ภูชิษา อีศรัตน์ อายุ 43 ปี ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการ เลือกบัญชีธนาคารให้กลุ่มนายทุนจีนใช้รับเงิน และรับเงินสดจากผู้ร่วมขบวนการนำส่งให้นายทุนชาวจีนกลุ่มจัดหาควบคุมบัญชีม้า น.ส.ศศิธร สืบวงษ์ อายุ 38 ปี ทำหน้าที่กดเงิน รวบรวมเงินสดส่งให้ น.ส.ภูชิษา นายอดิศักดิ์ พิกุลงาม อายุ 38 ปี ทำหน้าที่จัดหาและควบคุมบัญชีม้า นายเพชร โพติยะ อายุ 30 ปี ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้าและพาไปถอนเงินสด น.ส.ฐญามน โสดา อายุ 47 ปี บัญชีม้า นายไชยเชฏฐ์ ไชยพัฒน์ อายุ 53 ปี บัญชีม้า นายสีชาย ปัญญา อายุ 44 ปี บัญชีม้า และนายดนุพล สายสินธุ์ อายุ 27 ปี บัญชีม้า พร้อมของกลางเงินสด 846,800 บาท บัญชีธนาคาร 13 บัญชี บัตรเอทีเอ็ม 14 ใบ โทรศัพท์มือถือ 18 เครื่อง ซิมโทรศัพท์มือถือ 23 ซิม และเครื่องนับธนบัตร 1 เครื่อง จับกุมได้ในพื้นที่ ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรีพล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 1 เร่งรัดติดตามจับกุมแก๊งบัญชีม้าและแก๊งสแกมเมอร์ที่หลอกลวงประชาชน ตำรวจสืบสวนพบกลุ่มเครือข่ายคนไทยเป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและเครือข่ายฟอกเงินให้กลุ่มสแกมเมอร์ โดยกลุ่มจัดหาบัญชีม้าเพื่อรับเงินโอนให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีหัวหน้าแก๊งชาวจีนคอยสั่งการหญิงชาวไทยให้รวบรวมจัดหาบัญชีที่จะรับโอนเงินจากการหลอกลวงเหยื่อหรือที่เรียกว่ากลุ่มคอกม้า นำเงินไปฟอกด้วยวิธีการเปลี่ยนเป็นเงินสกุลคริปโต เคอร์เรนซี แล้วส่งต่อกลับคืนไปให้หัวหน้าชาวจีน โดยกลุ่มคอกม้าจะได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์จากการกดเงินจากบัญชีม้า หลังสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางจำนวนมากจากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า กลุ่มคอกม้าที่ถูกจับกุมได้ย้ายฐานสแกนหน้าจากประเทศกัมพูชามาประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.68 เนื่องจากปัญหาข้อพิพาทแนวชายแดน เงินที่ได้รับจากการกระทำความผิดจะส่งกลับไปยังนายทุนชาวจีน โดยใช้วิธีการนำเงินสดไปแลกเหรียญดิจิทัลก่อนจะโอนไปให้นายทุนชาวจีน โดยเฉลี่ยแล้วจะถอนเงินสดนำส่งให้ผู้จ้างวานวงเงินประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อวัน จะได้ค่าตอบแทนร้อยละ 4 ของยอดที่ถอน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาทหลังสอบสวนแจ้งข้อหา ร่วมกันเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจร ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิด เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี สอบสวนดำเนินคดีต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่