ฝนถล่มหนักเกิดน้ำป่าไหลหลากนักท่องเที่ยวติดค้าง กู้ภัยใช้สลิงลำเลียงคนข้ามฝั่งอุทยานฯออบหลวง จ.เชียงใหม่ ประกาศปิดเที่ยวน้ำตกหวั่นเกิดอันตราย กำแพงเพชรและชัยภูมิน้ำป่าทะลัก ถนนถูกตัดขาดชาวบ้านเดือดร้อน เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำเหนือพื้นที่ตอนล่างรับน้ำเพิ่ม เมืองปทุมอ่วม “นายกแจ๊ส” แจงเครื่องสูบน้ำกรมชลฯพัง เร่งเสริมเครื่องเร่งระบายน้ำวิกฤติย้อนรอยปี 65 ขณะที่กรมอุตุฯแจ้งภาคเหนือเตรียมรับมือพายุ “คัลแมกี”ช่วงปลายฝนต้นหนาวหลายพื้นที่ยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย. มีรายงานว่า เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในอุทยานแห่งชาติ ออบหลวง จ.เชียงใหม่ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าหลากบริเวณน้ำตกแม่เตี๊ยะ กระแสน้ำเชี่ยวกรากและมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้นักท่องเที่ยว 25 คน ติดค้างอยู่บริเวณอีกฝั่งของน้ำตก เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ร่วมกับทีมกู้ภัยทางสูงแห่งประเทศไทย ระดมกำลังเข้าพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือใช้ลวดสลิงขึงโยง 2 ฝั่งลำเลียงนักท่องเที่ยวข้ามมาอีกฝั่งปลอดภัยทุกคน พร้อมเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้งดการเดินทางเข้าในพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากในช่วงนี้นายชยานันต์ สากำ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติออบหลวง จ.เชียงใหม่ ออกประกาศเรื่อง ปิดแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกแม่เตี๊ยะ ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นการชั่วคราว เนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง น้ำในลำห้วยแม่เตี๊ยะมีปริมาณน้ำมากเกิดน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้บริเวณน้ำตกแม่เตี๊ยะมีปริมาณน้ำไหลเชี่ยว เจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเพื่อความปลอดภัย ปิดให้บริการเข้าท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติส่วนที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ฝนตกหนักตลอดในช่วง 2 วันที่ผ่านมาทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงจากดอย อินทนนท์ เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย มวลน้ำทั้งหมดไหลมาลงทะเลสาบดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ระดับ น้ำสูงท่วมอาคารขายสินค้าชาวบ้าน และท่วมป้ายจุดเช็กอินทะเลสาบดอยเต่าที่ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่าย ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมถนนสายหลัก โดยเฉพาะบริเวณที่ลุ่มต่ำและเส้นทางที่รับน้ำจากคลองห้วยต่างๆ เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายที่ จ.ชัยภูมิ น้ำป่าไหลหลากลงมาจากเทือกเขาภูเขียวผ่านลงสู่เขื่อนจุฬาภรณ์ อ.คอนสาร ขณะนี้มีระดับน้ำเกินความจุ 101 เปอร์เซ็นต์ มวลน้ำป่าหลากจากฝั่งเทือกเขาภูเขียวจะไหลผ่านลงมาเขื่อนโนนเขวา ต.โนนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ อ.ภูเขียว และ อ.แท่น จ.ชัยภูมิ แจ้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมน้ำพรม-เชิญ ติดตามสถานการณ์มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ขณะที่ชาวบ้านและฝ่ายปกครองนำกระสอบทรายมากั้นน้ำลำห้วยสาขา ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าชุมชนที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ปริมาณน้ำในลำน้ำห้วยยางโทนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วน้ำไหลหลากเข้าพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณวัดห้วยยางโทน หมู่ 2 ต.ห้วยยางโทน และโรงเรียนวัดห้วยยางโทน สอบถาม พระครูใบฎีกาวิษณุ ขันติโก เจ้าอาวาสวัดห้วยยางโทน เปิดเผยว่า มวลน้ำไหลหลากเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย. ระดับน้ำอยู่ราวหัวเข่าท่วมวัดและพื้นที่โดยรอบ รวมถึงโรงเรียนวัดห้วยยางโทน ขณะนี้ประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำเหนือและท้ายเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมรับมือฝนที่คาดว่าจะตกเพิ่มใน 1-2 วันข้างหน้า ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำ ควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากที่ตรึงระบายไว้ที่ 2,000 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,200 ลบ.ม./วินาที แบบขั้นบันไดในระยะเวลา 2 วัน จะมีผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนคร ศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 10-30 ซม.ส่วนสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันส่งผลให้สะพานชำรุด และถนนหลายจุดถูกน้ำตัดขาด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนจำนวนมากที่บริเวณสะพานแดงคลองหนึ่งและตลาดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ฝนตกหนักทำให้ระดับน้ำเอ่อเข้าท่วมบริเวณสะพานแดง ซอย 8 ถึงซอย 18 เป็นระยะทางประมาณ 1 กม. ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่ารถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครรังสิตนำป้ายและแผงเหล็กกั้นปิดเส้นทางการจราจร และเร่งนำเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำ ส่วนบริเวณชุมชนตลาดรังสิต ตลาดพรพัฒน์ หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ปริมาณน้ำท่วมสูงเช่นกันนางสุพีพร โมรา หัวหน้า ปภ.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า จุดน้ำท่วมที่คลองสาม อ.คลองหลวง และย่านตลาดรังสิต จนถึงช่วงสะพานแดงคลองหนึ่ง เร่งประสานเจ้าหน้าที่กรมชลประทานเพื่อสูบระบายน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ระบายออกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตลอดทั้งคืน เพื่อเร่งระบายน้ำและลดระดับน้ำไม่ให้เข้าท่วมบ้านเรือน อย่างไรก็ตาม จะเฝ้าระวังตรวจสอบระดับน้ำในบริเวณที่เป็นพื้นที่ต่ำ และนำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบระบายลงคลองรังสิตด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จ.ปทุมธานีเกิดฝนตกหนักมากที่บริเวณคลองสามเครื่องสูบน้ำของกรมชลประทานเสีย ปริมาณน้ำจำนวนมากทะลักเข้าสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ทำให้ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ต้องเปิดเครื่องสูบน้ำจำนวน 13 เครื่องเพื่อเร่งการระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่ถ้าหากเปิดเครื่องมากกว่านี้ ประชาชนที่อยู่หลังประตูน้ำจุฬาลงกรณ์จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้น ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ขณะนี้ระดับน้ำใน อ.คลองหลวงสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะ ต.คลองสาม มีหมู่บ้านจัดสรรมากมาย เร่งดำเนินการเคลื่อนย้ายตั้งเครื่องสูบน้ำของ อบจ.ปทุมธานี ไม่เช่นนั้น ต. รังสิต และ อ.คลองหลวง น้ำอาจจะท่วม ตอนนี้คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะสูงเท่ากับปี 2565 เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องด้าน ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศ มนตรีนครรังสิต เปิดเผยว่า คลองรังสิตประยูรศักดิ์ระดับน้ำสูงมากขึ้นจนเท่ากับระดับถนนในชุมชน ทำให้น้ำไหลย้อนเข้ามาเร่งสูบน้ำออกจากชุมชนลงไปในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ แต่ยังคงมีปริมาณน้ำที่ย้อนกลับเข้ามาเป็นปัญหาหลักตอนนี้ เพราะระดับน้ำในคลองที่สูงขึ้นผิดปกติ เมื่อสอบถามไปยังกรม ชลประทานทราบว่าทางด้านเหนือส่งน้ำลงมา ทำให้ระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไม่ทันจะเหมือน กับปี 2565 เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะเร่งดำเนินการคืนพื้นที่ให้ได้เร็วที่สุดขณะเดียวกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เป็นประธานการประชุมติดตามผลการระบายน้ำหลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงคืนวันที่ 2 พ.ย. นายชัชชาติ กล่าวว่า ตรวจวัดปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัดศูนย์ราชการ-ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ 131.5 มม. มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำ (สนน.) เร่งเปิดประตูระบายน้ำและเดินเครื่องสูบน้ำทุกสถานีเต็มกำลัง เพื่อเร่งระบายน้ำที่ค้างในระบบสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงให้ตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำหลัก อุโมงค์ระบายน้ำ และจุดเฝ้าระวังพิเศษ เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณฝนที่อาจตกซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ สนน.ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง และจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดน้ำท่วมซ้ำซาก ขุดเปิดท่อระบายน้ำและช่องรับน้ำฝน รวมถึงจัดเก็บขยะและเศษวัสดุที่อาจกีดขวางการระบายน้ำกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาพอากาศช่วงวันที่ 4-6 พ.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงกับมีอากาศเย็นในตอนเช้า แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนบน ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากอิทธิพลของพายุ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ส่งผลทำให้ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นพาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างอนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “คัลแมกี” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง ในช่วงวันที่ 4-5 พ.ย. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. จากนั้นมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่