ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ แวดวงการเมือง คงต้องโฟกัสไปที่ “เพื่อไทย” ที่กำลังเริ่มต้นปฏิบัติการ “ยกเครื่อง” ครั้งใหญ่ อันเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เจ้าของพรรคตัวจริงเสียงจริงตระกูล “ชินวัตร” มีปัญหาลูกสาว “แพทองธาร ชินวัตร” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีคดีรออยู่อีกหลายคดี จึงไม่สามารถแสดงตัวได้เต็มที่นัก“พ่อ”–“ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มีบารมีสูงสุดก็ต้อง “ติดคุก” จึงมีความจำเป็นที่จะต้องลอกคราบใหม่เพื่อต่อสู้ในเกมเลือกตั้ง“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” สส.เชียงใหม่ลูกชาย “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ที่ลาออกไปเนื่องจากไม่พอใจการส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีปัญหาจนทนอึดอัดไม่ไหว!ก็ไม่ใช่ใคร “เจ๊แดง” คนดัง ที่เข้ามาเจ้ากี้เจ้าการไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้นแต่ลูกชายวันนี้ได้นั่งเก้าอี้หัวหน้า “เพื่อไทย” คนใหม่ ที่เสียงสนับสนุนเหนือ “จาตุรนต์ ฉายแสง” ที่โดดเด่นในฝ่ายเสรีประชาธิปไตย“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” คืนกลับสู่ตำแหน่ง “แม่บ้าน” เลขาธิการพรรคอีกครั้งหนึ่งว่ากันว่าสูตรนี้จะทำให้พรรคเข้มแข็งและสมานสามัคคีสู้กับคู่แข่งได้“จุลพันธ์” นั้นถือว่าเป็นคนหนุ่มมีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่คนสมัยนี้กำลังโหยหา เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศแย่จึงเป็นคุณสมบัติที่สังคมกำลังต้องการในพรรคก็กำลังสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีบทบาททันยุคทันสมัย จึงน่าจะดึงใจคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในพรรคและจะเข้ามาสมทบก็เลยเป็นสเปกที่เหมาะเจาะพอดีประเด็นสำคัญคือสั่งได้ คุมได้ ไม่ดื้อคุณสมบัติข้อนี้จึงได้รับการการันตีต่างจาก “จาตุรนต์” แม้จะโดดเด่นในแนวการเมืองเสรีนิยมไม่ต่างไปจากคนรุ่นใหม่ในค่ายสีส้ม ความจริงเขาน่าจะไปอยู่ตรงนั้นมากกว่าแต่ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาอย่างโชกโชน จึงรู้ดีอันไหนควรไม่ควร เพราะสังคมไทยยังเป็นแบบนี้ยัง “สุดโต่ง” ไม่ได้!แต่ปัญหาสำคัญก็คือ เขามีความเป็นตัวของตัวเองสูง ดื้อในหลักการ ใครจะสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้นี่คือข้อด้อยในสายตาของเจ้าของพรรคยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความเห็นต่างกับ “ทักษิณ” อยู่หลายเรื่องมีข่าวว่าจะดันให้เป็น 1 ใน 3 ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแทนเพราะหน่วยก้านชั้นถึงก็เป็นแบบนี้แหละการยกเครื่องแบบไม่ยกเครื่อง เพราะทุกอย่างต้องฟัง “ชินวัตร” อยู่ ดังนั้นก็คงไม่ต่างไปจากเดิมเท่าใดนักถ้าสั่งไม่ได้ก็ไม่มีทาง!ต่างจาก “ประเสริฐ” ที่มานั่งเก้าอี้เดิมนั้นชัดเจนอยู่แล้ว สามารถสั่งซ้ายหันขวากันได้ อีกทั้งเป็นคนรุ่นเก่าหน่อยก็เลยได้เข้ามาช่วยประสานระหว่างคน 2 รุ่นอีกขั้นหนึ่ง คือแคนดิเดตนายก รัฐมนตรีของ “เพื่อไทย” 3 คน มีแน่ๆแล้ว คือ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้อำนวยการเลือกตั้งคนใหม่คนนี้นอกจากใจถึงพึ่งได้แล้วยังสามารถผสมผสานคนรุ่นใหม่และเก่าได้ว่าไปแล้วเขาคือ “นายทุน” คนหนึ่งของพรรค ที่โชว์ผลงานให้เห็นมาแล้วว่า ของจริงอีกคนก็ “จาตุรนต์ ฉายแสง”อีกคนคงเป็นสายใยเจ้าของพรรคเพียงแต่จะเลือกใครเท่านั้น!“ลิขิต จงสกุล”คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม