สวยสะกด เก่ง ครบเครื่อง สำหรับ โบว์-เมลดา สุศรี นางเอกสาวมากฝีมือ หลังกลับมาจากเรียนภาษาที่เมืองนอก พอกลับมาปุ๊บก็มาพร้อมผลงานภาพยนตร์ไทยเรื่อง “อนงค์ 2... สามสี่ชาติ” สร้างโดยคาร์แมนไลน์สตูดิโอ-M Studio-จังก้า สตูดิโอ ผลงานกำกับ คมกฤษ ตรีวิมล การันตีความหลอนปนฮา แต่กว่าจะเป็น “อนงค์ 2” ต้องเรียกว่าโดนจัดหนักจัดเต็มถึงขั้นสาวโบว์ร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว และล่าสุดสาวโบว์เพิ่งคว้ารางวัล “ดารานำหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี” จากงาน “MAYA TV AWARDS 2025 : มายามหาชน” มาสดๆ ร้อนๆ การันตีความสามารถที่ไม่ธรรมดา ใน “มาลัยไทยรัฐ” จากผีอนงค์ภาคแรกที่สร้างตำนานรักคนกับผี สนุก ซึ้ง ย่อยง่าย พอมาถึง “อนงค์ 2...สามสี่ชาติ” เบื้องหน้าที่ว่าสนุกสุดขิต แต่สาว โบว์-เมลดา กลับบอกว่าเจองานหินอย่างจัง “เวอร์ชันนี้ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง นักแสดงก็เพิ่มขึ้นด้วย เจอมาหมดทั้งสัตว์ เด็ก เอฟเฟกต์ สลิง อนงค์ทำครบหมดเลย ตอนแรกที่พี่เอส-คมกฤษ ติดต่อมาไม่ได้เอาบทมาให้อ่าน ถ้ามีอนงค์ 2 โบว์จะเล่นไหม โบว์ก็ตอบไปเล่นสิพี่ ทำไมจะไม่เล่น วันที่อ่านบทเพิ่งรู้ว่ามีฟันดาบด้วย ไม่เคยทำมาก่อน ดูเก้งก้าง ไม่ค่อยทะมัดทะแมง มีแต่งหน้าเอฟเฟกต์ เป็นปอบด้วย ต้องใส่ฟันปลอม แล้วน้ำยาใส่ฟันปลอมเอาออกยากมาก ที่เค้าเคลมมันติดทนก็ทนจริง ไม่ออก ของมันดี (ยิ้ม)” เล่นเรื่องนี้หนักหน่วงขนาดไหน “หนักอยู่เหมือนกันค่ะ ภาพรวมดูสนุกตรงที่เราได้ทำงานกับคนที่เรารู้จัก” เหมือนได้ปลดปล่อย ทุกสิ่งทุกอย่าง “เรียกว่าอัดอั้นดีกว่า (หัวเราะ) มันหลายอย่าง หลายเรื่องมาก สมบุกสมบันมาก ฉากดีๆสวยๆเยอะค่ะ แต่นักแสดงมอม”เล่นไปมีอ่อมมีหมดแรง “ทุกซีนค่ะ มันหนักตรงที่เอฟเฟกต์ใช้เวลานาน มันร้อน อากาศอบอ้าวแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งน้ำลายย้อย เข้าห้องน้ำก็ยาก ทำอะไรก็ยาก ทุกอย่างคือมหากาพย์มาก” ผู้กำกับจัดหนักให้เลย “โห เห็นว่ารักเอาใหญ่เลยนะ (หัวเราะ)” ตอนนี้อยากจะบอกอะไรพี่เอสบ้าง “อยากบอกว่าเวลาทำงานพี่เอสอย่าเครียดมากนะคะพี่ เพราะ ว่าสุดท้ายจะมาลงที่พวกหนู (หัวเราะ) เวลาพี่โมโหพวกหนู หนูเสียใจ มีช็อตที่แกโมโหเพราะเวลามันเร่งด้วย หนูตกใจเพราะไม่ชอบคนตะคอกไม่ชอบคนดุอะไรแบบนี้ ในการทำงาน เพราะเราทำงานกับอีโมชันนอล ทำงานกับอารมณ์ ใครมาสะกิดนิดเดียวก็เดินไปน้ำตาคลอ ภายนอกโบว์ดูเป็นคนแข็งแรง ตลกโปกฮาแต่ลึกๆเป็นคนเซนซิทีฟมากๆ ก็เลยมีเกราะป้องกันขึ้นมา ฉันเป็นคนตลก แต่จริงๆ ถ้าเจอเหตุการณ์อะไรมากระแทก แป๊บเดียวน้ำตาไหลเลย เศร้าค่ะ” นอกเหนือจากผลงานอนงค์ โบว์กลับมารันการทำงานเต็มเหนี่ยวมาก “ตอนนี้ทำงานทุกวัน ก่อนที่จะบินไปเรียน 2 เดือน พอกลับมาเยอะเข้าไปอีก 1 วัน 2 งาน อัดเข้าไปเต็มที่เพราะใกล้สิ้นปีแล้ว” จะกลับไปเรียนภาษาต่อ “อยากกลับไปนะ ถ้ามีโอกาสเพราะจริงๆ 2 เดือนถือว่าน้อยมากๆ แล้วได้มาเท่านี้โบว์คิดว่ามันค่อนข้างอินบรูุฟตัวเอง ได้ก้าวออกจากเซฟโซน เพราะไม่เคยอยู่คนเดียว” มีฝึกภาษากับพี่อาเล็ก “มีบ้างค่ะ พูดขำๆ พูดไปเรื่อยๆ อย่างน้อยได้พูดจะได้ไม่ลืม เขาจะแบบว่าแก้ตรงนี้บ้าง” มีชวนไปเรียนคู่ “มีค่ะ แต่ว่าพี่เล็กกับโบว์ว่างไม่ตรงกันจริงๆ คิวไม่ได้ ส่วนปีหน้าไม่ได้แล้วเพราะคิวเต็มทั้งปีเลย ของโบว์มีละคร 2 เรื่อง ภาพยนตร์ มีโปรเจกต์ 3-4 อัน พยายามแบ่งคิวให้เต็มที่เท่าที่ทำได้” ต่างคนต่างทำงานแล้วเวลาให้กันล่ะ “มีบ้าง ไม่มีบ้างค่ะ แต่เราต้องรับโอกาสของเราก่อน ทำงานให้เต็มที่ งานพี่เล็กเองก็เยอะ เหมือนเป็นคู่ที่พากันไปทำงาน หาความเจริญมาใส่กัน” คบกันขนาดนี้มีคุยๆ เรื่องแต่งบ้างไหมเพราะหลายๆ คนเริ่มกดดันคู่เราแล้ว “กดดันไปก็ไม่ได้อะไรหรอกค่ะเพราะยังไม่แต่งอยู่ดี (หัวเราะ) มันยังไม่ถึงเวลา โบว์อายุ 29 เอง ถ้าจะแต่งจริงๆอายุต้อง 30 ขึ้นไป เลยไม่รีบและเป็นเรื่องของอนาคต ถามว่ามีคุยกันไหมก็มีคุยกัน เราก็คบกันมา 3-4 ปีแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมากจริงๆ ทุกอย่างรันไปเร็วมากจนลืมวันลืมคืนไปเลยค่ะ”.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม