เจอใครในช่วงนี้ มีแต่พูดคำว่าภูมิรัฐศาสตร์ บางคนพูดโดยไม่ทราบด้วยซ้ำไปว่าคืออะไร ภูมิรัฐศาสตร์เป็นศาสตร์ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างภูมิประเทศกับอำนาจทางการเมืองของรัฐ เขียนให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ เป็นการศึกษาเรื่องตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ รวมทั้งอิทธิพลของประเทศต่างๆที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ว่าเป็นพวกทะเล ภูเขา เส้นทางการค้า ทรัพยากรธรรมชาติ ช่องแคบ เส้นทางพลังงาน สรุปอีกครั้งหนึ่งครับว่าภูมิรัฐศาสตร์คือศาสตร์ที่อธิบายว่าทำเลที่ตั้งกำหนดอำนาจของประเทศอย่างไรตอนนี้ชาติสมาชิกนาโตยุโรปหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะทรัมป์ประกาศลดทหารในฝั่งตะวันออกของยุโรป ลดการสนับสนุนด้านความมั่นคงของนาโตกับชายแดนรัสเซีย ประเทศแรกที่ตระหนกตกใจจนขี้แตกแยกก้นในขณะนี้คือโรมาเนีย เพราะทรัมป์สั่งถอนกองพลขนส่งทางอากาศที่ 101 จากโรมาเนียกลับสหรัฐฯ ทรัมป์ปลอบใจ (หลอกๆ) ว่า อ้า สหรัฐฯไม่ได้ถอนกำลังทั้งหมดจากแผ่นดินยุโรปและไม่ได้ลดพันธะตามมาตรา 5 ของนาโตสงครามรัสเซีย–อูเครนผ่านมาแล้ว 3 ปี อูเครนและนาโตยังเอาชนะรัสเซียไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้ทรัมป์กำลังใจลดหดถอย และจะแก้หน้าด้วยการหันไปเล่นงานจีนแทน ทรัมป์ไม่ได้ปิด แกพูดตรงไปตรงมาว่า อ้า ตั้งแต่นี้ไป สหรัฐฯจะไปโฟกัสที่อินโด–แปซิฟิก เราจะเปลี่ยนยุทธศาสตร์จากยุโรปไปเอเชีย ประเทศที่พุ่งกระฉูดส่งตูดจัมโบ้มาหายใจรดต้นคอสหรัฐฯคือจีน ทรัมป์พูดเอาใจเพื่อให้พวกนาโตหัวใจพองโตว่า อ้า ตอนนี้สมาชิกนาโตฝั่งยุโรปพึ่งพาตัวเองได้มากกว่าแต่ก่อนทรัมป์คงวางแผนไว้นานแล้ว ดูได้จากการที่ประกาศให้สมาชิกนาโตจ่ายงบประมาณร้อยละ 5 ของจีดีพีเพื่อใช้ในการป้องกันประเทศและความมั่นคง แต่หลายประเทศไม่พร้อม ทรัมป์จึงเตรียมเททิ้งนาโตยุโรปโดยสหรัฐฯใช้คำว่า ‘ปรับตำแหน่ง’ มากกว่าคำว่า ‘ถอนหรือยกเลิก’กรณีสหรัฐฯกับนาโตยุโรปเป็นอุทาหรณ์สอนใจรัฐบาลไทยว่า ไม่มีใครชาติไหนจะมาคุ้มกบาลเราได้ตลอดไป เราต้องพึ่งตัวเอง ตอนที่ไบเดนจะเล่นรัสเซีย สหรัฐฯเอาใจนาโตและอูเครน แค่เอ่ยว่าอยากได้ดาว สหรัฐฯไปสอยดาวเอามาประเคนให้จนครบตอนนี้สหรัฐฯรู้แล้วว่า อูเครนและนาโตยุโรปโค่นรัสเซียไม่ลง สหรัฐฯจึงจะโยนไอ้ประเทศกากพวกนี้ลงถังขยะ ยิ่งเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2025 ปูตินประกาศชัดว่า รัสเซียประสบความสำเร็จในการสร้างบูเรเวสต์นิก (ขีปนาวุธร่อนพลังงานนิวเคลียร์) โพไซดอน (ยานใต้น้ำไร้คนขับพลังนิวเคลียร์) และอวานการ์ด (หัวรบความเร็วเหนือเสียง) สหรัฐฯก็แขยงแขงขนและไม่คิดติดใจที่จะสู้กับรัสเซียตัวอย่างกรณีที่นาโตยุโรปโดนเทลงถังขยะ อาจจะเกิดประเทศอาเซียนที่พึ่งสหรัฐฯ เราจึงต้องสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีและไซเบอร์ของตัวเอง สำหรับประเทศไทย รัฐบาลไทยต้องกลับมาหนุนอุตสาหกรรมอาวุธยุทโธปกรณ์ของไทยให้กองทัพไทยสามารถพึ่งพาได้ในระดับพื้นฐานผู้มีอำนาจของไทยในอดีตทิ้งการสนับสนุนอุตสาหกรรมกลาโหมของไทย อาจจะเป็นเพราะเรื่องส่วนต่างหรือคอมมิชชันที่ได้รับจากการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างประเทศ ตอนนี้ผู้นำกองทัพไทยควรต้องคิดใหม่ ทำใหม่นอกจากพึ่งตนเองแล้ว ประเทศขนาดกลางอย่างเราต้องคิดเรื่องการเป็น Balancer State หรือรัฐสมดุล เป็นสะพานการทูตระหว่างมหาอำนาจตะวันตกและเอเชีย หรืออาจจะพัฒนาตัวเราให้กลายเป็นศูนย์กลางของอาเซียนสำหรับการเจรจาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โลกกำลังจะเปลี่ยนเป็นโลกหลายขั้ว ยุทธศาสตร์ใหม่ของไทยก็อาจจะเปลี่ยนไปในทางรองรับโลกที่มีหลายมหาอำนาจการที่สหรัฐฯลดการแทรกแซงในยุโรปตะวันออกและมาแสดงอิทธิพลในเอเชียนี่เป็นเรื่องสำคัญและอันตราย เราฐานะประเทศขนาดกลางต้องเผชิญกับแรงดึงจากทั้ง 2 ขั้ว การเลือกข้างใดข้างหนึ่งอย่างสุดโต่งจะเป็นอันตรายบางคนอาจจะมองว่า โลกหลายขั้วเป็นภัยคุกคาม แต่ถ้าเรานั่งพิจารณา โลกหลายขั้วอาจจะเป็นโอกาสทางยุทธศาสตร์ใหม่ของเรา ช่วยให้เราไม่เป็นเพียงผู้โดยสารในขบวนรถของพวกมหาอำนาจ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม