คุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย แถลงหลังกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกที่กรุงโซลว่า ไทยได้ประชุมทวิภาคีกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ผู้นำจีนได้ยกปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้นมาหารือ และให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับไทยปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยีออนไลน์ สแกมเมอร์ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตนได้ยืนยันกับ ประธานาธิบดีสี ว่า รัฐบาลตนไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยกาสิโน หรือทำให้การพนันถูกกฎหมาย ประธานาธิบดีจีนมีความพึงพอใจ ยืนยันว่าจีนไม่สามารถแทรกแซงนโยบายของไทยได้ แต่หากพบว่าไทยไม่ตอบสนอง ก็สามารถสั่งให้คนของเขาไม่มาประเทศเรา เมื่อประเทศเราไม่มีข้อกังวลเรื่องกาสิโน จึงสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวยังประเทศไทย เป็นการเคลียร์ความกังวลในเรื่องแก๊งสแกมเมอร์แต่ในความจริง นายกฯอนุทินยังไม่ได้สั่งให้ปราบปรามแก๊งอาชญากรข้ามชาติและโจรสแกมเมอร์อย่างจริงจังให้เห็นเป็นรูปธรรม ล่าสุด ทหารเพิ่งจับชาวจีนสิบกว่าคนที่ใช้ไทยเป็นทางผ่าน ไปทำงานให้กับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา ที่ชายแดนสระแก้วเหมือนเดิม ถ้า นายกฯอนุทิน พูดโกหกกับ ประธานาธิบดีสี คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอนในขณะที่ รัฐบาลภูมิใจไทย ของ นายกฯอนุทิน ก็ยังวางเฉยในการปราบโจรสแกมเมอร์ ทั้งที่ พรรคประชาชน ที่หนุนให้เป็นนายกฯได้แฉในสภาไม่รู้กี่ครั้ง นายกฯอนุทิน ก็ไม่ได้เร่งรัดแต่อย่างใด คาดกันว่าเงินเทาดำที่มาฟอกในไทยมีจำนวนมหาศาล ขณะที่ สหรัฐฯสั่งยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ กว่า5 แสนล้านบาท ล่าสุด 1 พ.ย. ตำรวจสิงคโปร์ได้นำกำลังออกปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มเฉินจื้อ และปริ๊นซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ทั่วเกาะ สามารถอายัดทรัพย์ได้กว่า 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ราว 3,730 ล้านบาท ทั้งบัญชีธนาคาร บัญชีหลักทรัพย์ เงินสด เรือยอชต์ รถยนต์ แต่ นายเฉินจื้อ ไม่ได้อยู่สิงคโปร์ตำรวจสิงคโปร์แถลงว่า เริ่มสอบเครือข่ายเฉินจื้อ ตั้งแต่ปี 67 หลังจาก ได้รับข่าวกรองทางการเงินที่น่าสงสัย เมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากสหรัฐฯและอังกฤษ (ที่ยึดทรัพย์เครือข่ายเฉินจื้อ ไปก่อนหน้านี้) จึงได้สอบสวนเพิ่มเติมและนำไปสู่การปฏิบัติการ เพื่อธำรงไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งสิงคโปร์ ในฐานะ ศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือและอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม นี่คือจุดยืนอันน่าชื่นชมของ ตำรวจสิงคโปร์ รัฐบาลสิงคโปร์ ที่ประเทศไทยไม่มีที่คนไทยรู้สึกช้ำใจที่สุดก็คือ ขณะที่ สหรัฐฯสั่งยึดทรัพย์บิทคอยน์เฉินจื้อ อังกฤษยึดบ้านหลายหลังของเฉินจื้อ เกาหลีใต้ส่งรัฐมนตรีไปลุยถึงกรุงพนมเปญ สิงคโปร์ก็ยึดทรัพย์กว่า 3,700 ล้านบาท แต่รัฐบาลไทยยังไม่ทำอะไรเลย ช่วงเดียวกัน คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ได้ชี้มูลความผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. กับพวกกว่า 200 นาย ว่า มีความผิดวินัย รับส่วยขบวนการเว็บพนันออนไลน์ โอ้แม่จ้าว แล้วเศรษฐกิจสังคมไทยจะไม่ฉิบหายป่นปี้ได้ไง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและลูกน้องกว่า 200 นาย เป็นผู้รับส่วยพนันออนไลน์เสียเอง แล้วประชาชนไทยจะหันหน้าไปพึ่งใครยิ่งช้ำหนักเมื่อนักข่าวไปถาม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน กลับได้รับคำตอบว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ ต้องรอผลคณะกรรมการก่อนว่า เข้าข่ายผิดวินัยหรือผิดอาญา ใจคอท่าน ผบ.ตร.จะวางเฉย ไม่สั่งสอบสวนขยายผลต่อหรือ ทั้งที่ มีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ และ ป.ป.ช.ก็ได้รับเรื่องไว้แล้ว ถ้าเป็นสหรัฐฯ ยุโรป ผู้บัญชาการตำรวจตอบแบบนี้คงอยู่ไม่ได้แล้วการทุจริตคอร์รัปชันในไทยวันนี้ ถือว่าหนักหนาสาหัสที่สุดแล้ว ทุนเทา/ ทุนดำ/ ทุนจีน ได้กลืนกินอำนาจรัฐไทยเกือบทุกระบบหมดแล้ว ล่าสุด เพจพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ระบุว่า “แก๊งสแกมเมอร์ฟอกเงินในไทย ผู้ยิ่งใหญ่รู้เห็น ไทยกำลังกลายเป็นศูนย์กลางการฟอกเงิน ของเครือข่ายสแกมเมอร์และอาชญากรข้ามชาติ ผ่านการซื้อทอง ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ผ่านตลาดหลักทรัพย์ บิทคอยน์ เงินสกปรกกำลังยึดระบบเศรษฐกิจและการเมืองภายใน ถ้ารัฐยังช้า ความเชื่อมั่นประเทศไทยจะยิ่งเสียหายกว่าเดิม” ฟังแล้วรู้สึกใจหายไหมครับ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีประเทศไทย.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม