ขยันทำงานเป็นที่ไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาในนครบาล พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ยังไม่วายต้องหลีกเส้นทางไปขึ้น “นายพล” เป็น ผบก.ประจำ บช.ตชด.ก่อนจะกลับมาเป็น ผบก.น.เหนือ ไต่บันไดขึ้นผู้ช่วย ผบช.น. รอง ผบช.น. และผงาดนั่งเก้าอี้ “แม่ทัพตำรวจเมืองหลวง” เมื่อปี 2533เพียงปีเดียวเหตุการณ์บ้านเมืองพลิกผัน คณะ รสช. ยึดอำนาจรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี เพื่อนร่วมรุ่น จปร.5 ตั้งแต่ สุจินดา คราประยูร เกษตร โรจนนิล อิสรพงศ์ หนุนภักดี ต่างไปนั่งบริหารประเทศเขาถูกชวนเป็น รมช.สาธารณสุข ทิ้งตำแหน่ง ผบช.น. แม้เหลืออายุราชการอีก 2 ปีพอเกิดเหตุการณ์ “พฤษภาเลือด” ในปีถัดมา กลับเข้าตำรวจไม่ได้ เลือกเดินหน้าเล่นการเมืองเต็มตัวเป็นผู้แทนจังหวัดบ้านเกิดอ่างทอง สังกัดพรรคประชากรไทยแล้วย้ายสวมเสื้อพรรคชาติไทย ขยับไปรังพรรคไทยรักไทย และก้าวเป็นถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทยประสบการณ์การทำงานสมัยอยู่ในวงการตำรวจ เจ้าตัวสาบานว่า ไม่เคยเสียเงินให้ผู้ใหญ่ท่านไหนแม้แต่บาทเดียว ตำแหน่งแต่ละตำแหน่ง ตั้งแต่เป็นรองสารวัตรจนเป็นสารวัตร หรือเป็นอะไรต่ออะไร ไม่เคยเสียเงินให้ใครยอมรับว่าเกิดในยุคผู้หลักผู้ใหญ่เต็มไปด้วยคุณธรรม มีเมตตาธรรม มีความยุติธรรมเมื่อมีโอกาสขึ้นเป็นผู้นำจะเห็นหมดว่าใครฝีมือแค่ไหน ใครขยัน ใครเก่ง ไม่เก่ง ใครเฉื่อยแฉะ “ผมรู้หมด ไม่ต้องมาโกหก คนไหนเป็นอย่างไร ไม่ต้องมาบอก ผมรู้จัก” พล.ต.ท.วิโรจน์ว่า“เวลาผมแต่งตั้ง ผมไม่ผิดตัว เรารู้ว่าไอ้นี่ฝีมือแค่ไหน”ใครทำงาน ไม่ทำงาน สามารถชี้แจงได้.สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม