ใครจะมีทีเด็ด...การเลือกตั้งครั้งต่อไปนี้คงสู้กันแหลกไม่ว่าพรรคเล็กพรรคใหญ่ เพราะต่างก็ต้องการหาที่ยืน “เพื่อไทย” เพิ่งยกเครื่องใหม่สดๆซิ่งๆประกาศว่าอย่างต่ำ 200 เสียงขึ้นไป แม้จะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ที่ลอกคราบจาก ตระกูล “ชินวัตร”แต่หัวใจยังถึงกันอยู่ก็เป็นเพียงตัวเลขที่หวังสร้างความฮึกเหิมให้แก่บรรดาลูกพรรคท่ามกลางความถดถอยที่ต้องเร่งทำทุกอย่างแม้มีตัวเลขที่โผล่ออกมาว่าจะได้แค่ 70 ที่นั่งก็ตามก็ต้องดูจากจุดเริ่มต้นเพื่อเริ่มออกสตาร์ตในสนามจริงว่าจะมีทีเด็ดในรูปลักษณ์แบบไหนมาขายเอาใจประชาชนว่ากันว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องมีปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบไม่ว่าหัวหน้าพรรคและทีมงาน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นโยบาย แต่นั่นยังไม่พอยังจะต้องมี “คนนอก” ที่มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจที่ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่าจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น“คนนอก” ชุดนี้จะได้เป็นรัฐมนตรีแน่นอน!ไม่ต้องลงเลือกตั้ง ไม่ต้องมีตำแหน่งในพรรค แต่พอเอ่ยชื่อแล้วได้รับการขานรับอย่างเกรียวกราวอย่าง “คนนอก” ของรัฐบาลชุดนี้ที่ทำให้รัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ยิ้มแก้มปริเพราะเลือกตั้งคนเข้ามาทำงานได้ดีสามารถแสดงผลงานให้ปรากฏได้ทันทีเป็นแนวโน้มทำให้พรรคการเมืองอื่นต้องนำไปปฏิบัติตาม เพราะเห็นผลได้ทันทีพรรคไหนไม่มี “คนนอก” อย่างนี้ก็เป็นรองได้ทันทีเหมือนกัน“เพื่อไทย” แม้หัวหน้าพรรคคนใหม่จะมีความรู้เรื่องเศรษฐกิจดี แต่ระหว่างที่เป็นรัฐมนตรีไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ที่สำคัญรับปากอะไรไว้แต่ทำไม่ได้!มีที่ปรึกษา “บ้านพิษฯ” ที่เคยโดดเด่นก็หมดน้ำยาดังนั้น “เพื่อไทย” จึงจำเป็นต้องหา “คนนอก” ที่มีความรู้ความสามารถเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหาได้จริงๆวันนี้ “คนนอก” จึงเป็นตลาดใหม่ทางการเมืองที่มีเกรดสูง เพราะเป็นที่ต้องการของพรรคการเมืองต่างๆที่สำคัญ ณ วันนี้ บรรดามีเหล่านี้จะต้องเปิดตัวตนให้สังคมได้รู้ว่าใครเป็นใคร สังกัดพรรคไหน ไม่ใช่แฝงตัวทำงานเงียบๆ อยู่เบื้องหลังประเด็นก็คือพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องให้ความมั่นใจและนับบุคคลเหล่านี้เข้าร่วมทำงานแบบให้เกียรติกันให้อิสระในความคิด ปกป้องเมื่อยามมีปัญหา ไว้เนื้อเชื่อใจอย่างบริสุทธิ์พูดง่ายๆว่าไม่ใช่ “ลูกน้อง” ไม่ใช่ “ลูกจ้าง” แต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่เคียงบ่าเคียงไหล่กันอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีไม่ใช่ต้องรับฟังคำสั่งหรือความคิดของเจ้าของพรรคอย่างเดียวนี่ถือเป็นของใหม่ทางการเมือง!เป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งที่จะทำให้พรรคการเมืองมีคุณภาพมากขึ้น ไม่ใช่อะไรก็ต้องนักการเมืองเท่านั้นแต่เป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างมีนัยสำคัญ!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
